กฎหมายใหม่อาจกระทบรายได้ค่าบริการรายปีของ Apple มากถึง 85 พันล้านดอลลาร์

กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรปที่มีผลบังคับใช้ในปี 2024 ดูเหมือนว่าจะขัดต่อองค์ประกอบสำคัญที่ใช้ขับเคลื่อนค่าบริการของ Apple ซึ่งมีผลต่อกำไรของ App Store, รายได้จากการสมัครสมาชิก และค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ซึ่งเป็นรายได้สำคัญของบริษัท เนื่องจากยอดขายเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ลดลง

กฎหมายที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้มีชื่อว่า กฎหมายตลาดดิจิทัล (DMA) โดยมีเป้าหมายเพื่อกวาดล้างพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขันโดยบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายและการบังคับใช้โดยหน่วยงานของสหภาพยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อ Apple App Store โดยเฉพาะ และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศการบริการพื้นฐานได้

รายงานทางการเงินรายไตรมาสล่าสุด ระบุว่า ค่าบริการเหล่านี้ถือเป็นรายได้ประมาณเกือบ 1 ใน 5 ของรายได้ทั้งหมดที่ Apple ได้รับ อย่างไรก็ตาม ด้วยการเติบโตมากกว่า 10% ต่อปี ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลของยุโรปต้องพยายามแก้ไขข้อกำหนดที่ไม่ยุติธรรมต่อผู้บริโภค รวมถึงนักพัฒนาที่สร้างเนื้อหาสำหรับระบบปฏิบัติการยอดนิยม

Apple App Store ตกเป็นเป้าของหน่วยงานกำกับดูแล เมื่อการตรวจสอบเพิ่มขึ้น

ทางการพยายามประเมินช่องทางต่าง ๆ และยืนยันแล้วว่าจะต้องมีการแก้ไขนโยบาย App Store เพื่อให้สอดคล้องกับกฎ DMA ภายในเดือนมีนาคม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ผู้ใช้ iPhone สามารถติดตั้งแอพจากร้านค้าของบุคคลที่สามได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อค่าคอมมิชชั่นของ Apple อย่างถาวร

ปัจจุบัน Apple (AAPL) ลดการซื้อสินค้าดิจิทัลจาก App Store ลง 30% โดยมีข้อยกเว้นบางประการเพื่อบรรเทาแรงกดดันด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในจำนวนนี้มีรายได้จากแอพเกมมากกว่าครึ่ง

หากแหล่งดาวน์โหลดทางเลือกเกิดขึ้น หรือมีตัวเลือกการชำระเงินแบบใหม่ที่เพิ่มขึ้นตามข้อกำหนดของ DMA สิ่งนี้อาจทำให้ Apple เสี่ยงต่อการสูญเสียรายได้จาก App Store นับพันล้านดอลลาร์ต่อปี

หากลองประมาณการรายรับของ App Store ที่สูงถึง 7 พันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส และส่วนใหญ่มาจากการซื้อเกม การปกป้องข้อมูลใหม่ที่ห้ามไม่ให้ Apple จำกัดนักพัฒนาแอปไม่ให้ไปใช้ระบบจ่ายเงินภายนอก ช่องโหว่นี้อาจทำให้ค่าคอมมิชชั่นที่ควรได้รับหลุดลอยไปหาคู่แข่งได้

ผลกำไรที่ลดลงของ App Store จะส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อรายได้จากค่าบริการ และการที่ Apple ขายอุปกรณ์ต่าง ๆ น้อยลงก็เพราะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงเวลาที่ผ่านมา

Tech Giants ยังคงต้องเผชิญหน้ากับการตรวจสอบในหลายภูมิภาค

การตรวจสอบข้อเท็จจริงในยุโรป ได้ขยายแรงกดดันด้านกฎระเบียบไปในอีกหลายภูมิภาค โดยเมื่อเดือนที่แล้ว Apple และ Google ต้องเผชิญกับคดีต่อต้านการผูกขาดในสหรัฐอเมริกา โดยถูกกล่าวหาว่าการครอบงำ App Store ส่งผลเสียต่อนวัตกรรม และเป็นการเพิ่มต้นทุนให้แก่ผู้บริโภค

โจทก์ในกรณีดังกล่าว ได้คัดค้านข้อจำกัดในการรวมสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายอำนาจภายในแอปชำระเงิน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน พวกเขาเรียกร้องให้มีบทลงโทษ และยกเลิกการชำระเงินนี้ เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดจากพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขัน ที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานหลายปี

นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน ศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้ Epic Games ผู้ผลิตเกม Fortnite ชนะคดีฟ้องร้อง Google ทำให้เกิดผลตัดสินที่หลากหลาย ในขณะที่ Apple ก็พยายามปฏิเสธข้อหาการผูกขาด แม้ผู้พิพากษาจะยืนยันว่า กฎที่ห้ามระบบการชำระเงินในแอปทางเลือกเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ใกล้เคียงกับ DMA ของยุโรป อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงอุทธรณ์ในแง่มุมต่าง ๆ มาจนถึงปัจจุบัน

รัฐบาลสหรัฐอเมริกายังคงสอบสวนต่อไป

ในสหรัฐอเมริกา Apple ก็ยังประสบปัญหาการถูกสอบสวนด้านกฎระเบียบอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DoJ) ได้ตรวจสอบการดำเนินงานของ App Store มาระยะหนึ่งแล้ว

หาก DOJ ดำเนินคดีฟ้องร้อง Apple ในข้อหาการละเมิดการผูกขาดหรือนโยบายการแข่งขันทางการค้า และอาจทำให้รายได้จากค่าบริการลดน้อยลงไปกว่าเดิม

ในขณะเดียวกัน กฎหมายของสหภาพยุโรปพร้อมที่จะทำลายบรรทัดฐานที่สร้างไว้ภายในไม่กี่เดือน ทั่วโลกดูเหมือนจะรู้ถึงช่องโหว่เล็ก ๆ ในการป้องกันการแข่งขันของ Apple การปรับเปลี่ยนที่สอดคล้องกับข้อบังคับด้านความโปร่งใสของยุโรป จะทำให้หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกา สามารถติดอาวุธทางกฎหมายได้เพิ่มเติม

เชื่อมั่นใน Customer Loyalty เพื่อรักษาความโดดเด่นด้านการบริการ

แน่นอนว่าผลกระทบจาก DMA ยังคงไม่แน่ชัด Apple มีแนวโน้มจะพึ่งพาความภักดีของลูกค้า และใช้คำเตือนด้านความปลอดภัย เพื่อไม่ให้ลูกค้าใช้ App Store ของบุคคลที่สาม แต่ด้วยส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 60% ในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนของยุโรป ทางเลือกที่เพิ่มขึ้นนี้ก็อาจดึงดูดผู้ใช้ได้เช่นกัน

หากรูปแบบการซื้อแอปพลิเคชันในยุโรปเปลี่ยนแปลง ทางการสหรัฐฯ จะได้หลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อโต้แย้งว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูปในรูปแบบที่คล้ายกันภายในประเทศ นอกจากนี้ ด้วยบริการที่ขับเคลื่อนด้วยส่วนแบ่งรายได้ที่มากขึ้นเรื่อย ๆ การบังคับปรับเปลี่ยน App Store อาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนประมาณการทางการเงินของบริษัทในปีต่อ ๆ ไป